ทอมัส เอดิสัน ยอดนักประดิษฐ์ ผู้นำแสงสว่างของโลก
ทอมัส เอดิสัน หรือ ทอมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) เขานั้นเป็นทั้ง นักประดิษฐ์ และนักธุรกิจ ชาวอเมริกัน เขาได้ประดิษฐ์ อุปกรณ์ที่ สำคัญมากมาย จนได้รับฉายาว่า “พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก”
ทอมัส เอดิสัน เป็นผู้ประดิษฐ์หลอดไฟ จริงหรือ ?
จริง ๆ แล้ว ทอมัส เอดิสัน ไม่ใช่ผู้คิดค้นหลอดไฟ แต่อันที่จริงแล้ว เขานั้นเป็นคนแรก ที่จดสิทธิบัตร ในการประดิษฐ์หลอดไฟ จากนักวิทยาศาสตร์กว่า 20 คน ที่คิดค้นหลอดไฟ และเขานำหลอดไฟ มาทำเป็นธุรกิจ
เอดิสันเป็นหนึ่งใน ผู้ก่อตั้งบริษัท เครื่องใช้ไฟฟ้า ขนาดใหญ่ของโลก ที่มีชื่อว่า General Electric และอีกหลายบริษัท ในด้านไฟฟ้า และหนึ่งในบริษัท ของเขานั่นเอง ที่เป็นผู้คิดค้น เก้าอี้ไฟฟ้า สำหรับประหารชีวิต ของนักโทษ
และนอกจากนี้เขา ยังเป็นบุคคลสำคัญใน สงครามกระแสไฟฟ้า โดยพนักงาน ในบริษัทของเขานั้น ได้โฆษณาชวนเชื่อ ถึงความอันตราย ของไฟฟ้ากระแสสลับ โดยการฆ่าสัตว์ อย่างแมวและหมา เป็นจำนวนหลายตัว เพราะเขาพยายาม ผลักดันระบบไฟฟ้า กระแสตรงของบริษัท แข่งกับระบบไฟฟ้า กระแสสลับของ จอร์จ เวสติงเฮาส์
ประวัติทอมัส เอดิสัน
ทอมัส เอดิสัน เกิดในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1847 เอดิสันมีเชื้อสายดัตช์ เขามีพี่น้อง ทั้งหมด 7 คน ทอมัสเป็นลูกคนที่ 7
เขาเรียนที่โรงเรียนเล็ก ๆ ในโบสถ์ ด้วยความที่เขา มีนิสัยที่ มักจะสนใจ ในสิ่งรอบตัว มากกว่าตำราเรียน เขามักจะถูกครู ต่อว่าเขาว่า ทอมัสเป็นเด็กหัวขี้เลื่อย เพราะเขามักจะ ถามครูในเรื่อง ที่อยู่นอกตำราเรียน
เมื่อแม่ของทอมัน ทราบเรื่องนี้เข้า จึงได้ไปพูดคุยกับครู และทอมัสต้อง ออกจากโรงเรียน หลังจากที่เขา พึ่งเข้าเรียน ได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งแม่ของเขานั้น จึงเป็นคนที่ สอนหนังสือให้เขา
เขาชอบหนังสือเล่มหนึ่ง โดยภายในเป็น การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งผู้อ่านนั้น สามารถทดลองเองได้ เขาสนใจมาก พ่อและแม่ของเขา จึงได้สร้างห้องใต้ดิน ให้เขาไว้ใช้ ทำการทดลอง
ทอมัสมีปัญหา เรื่องการได้ยิน เป็นเพราะไข้ดำไข้แดง และไม่ได้รับ การรักษาแต่อย่างใด จึงทำให้หูของเขา ติดเชื้อและเกือบจะ ใช้การไม่ได้ แต่สุดท้ายหูของเขา ก็ใช้การไม่ได้ เพราะเขาโดนพนักงานรถไฟ ตบเข้าที่หู เนื่องจากเขาทำ เพลิงในในรถไฟ จากการทดลองของเขา
หลังจากนั้นเขา ก็ได้ขายนังสือพิมพ์ ที่เป็นของเขาเอง ที่มีชื่อว่า แกรนด์ทรังก์เฮรัลด์ และเขายังขาย ไปพร้อม ๆ กับของสือพิมพ์ ฉบับอื่น ๆ อีกด้วย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้น ในการทำธุรกิจของเขา และสุดท้ายเขา นั้นมีบริษัท 14 แห่ง
ผลงานของทอมัส เอดิสัน
ทอมัสเป็นนักประดิษฐ์ ที่มีผลงาน มากที่สุดในยุคนั้น มีสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ ภายใต้ชื่อของ 1,093 ชิ้น แต่ส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ ที่เขาคิดค้นขึ้นเอง แต่มันถูกพัฒนา จากสิ่งประดิษฐ์ ที่ลูกจ้างของเขา ได้คิดค้นเอาไว้
นั่นจึงทำให้ เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ การอ้างผลงาน ที่เป็นของตัวเอง แต่ผู้เดียวเลย นอกจากนี้เขา ยังก่อตั้งบริษัท Edison Trust ซึ่งเป็นบริษัท ผลิตภาพยนตร์
ถึงแแม้ว่าทอมัส จะไม่ได้เป็น ผู้ที่คิดค้นหลอดไฟเอง แต่เขานั้นนำมัน มาพัฒนาขึ้น โดยเขาได้นำ หลอดไฟนี้เข้ามา ใช้ในชีวิตประจำได้ โดยการที่เขา ทำให้อายุ ของหลอดไฟนั้น ยาวนานมากขึ้น เพื่อความสะดวกสบาย เมื่อนำไปใช้ในบ้าน และเขายังร้างระบบผลิต และแจกจ่ายไฟฟ้าด้วย
หลังจากนั้นทอมัส ใช้ชีวิตอยู่บ้าน และเสียชีวิต ด้วยโรคเบาหวาน และไตวาย ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1931 อายุ 84 ปี ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่เวสต์ออเรนจ์
ประวัติด้านอื่น ๆ ของทอมัส เอดิสัน
ค.ศ. 1863 เป็นพนักงานส่งโทรเลข เปลี่ยนบริษัททำงานถึง 4 ครั้ง ในอเมริกา และแคนาดา
ค.ศ. 1864 ประดิษฐ์เครื่องบันทึก การนับคะแนน และยื่นขอจดสิทธิบัตร แต่ไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน
ค.ศ. 1869 เปิดบริษัทวิศวกรไฟฟ้าขึ้น ที่ยังนิวยอร์ก และประสบความสำเร็จ
ค.ศ. 1871 พบรักและแต่งงานกับ แมรี สติลเวลล์ และเปิดโรงงาน และศูนย์วิจัยในตัว และในปีนั้น แม่ของเขาเสียชีวิต
ค.ศ. 1876 สร้างโรงงาน และศูนย์วิจัยใหม่ ที่เมนโลพาร์ก ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ และเริ่มลงมือ ประดิษฐ์โทรศัพท์ แต่อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ คิดค้นขึ้นได้ก่อน
ค.ศ. 1877 ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียง และได้รับฉายา พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก จากสิ่งประดิษฐ์นี้
ค.ศ. 1878 เริ่มศึกษาค้นคว้า คิดจะทำหลอดไฟ เพราะไฟส่องสว่าง ในสมัยนั้น ก่อให้เกิดไฟไหม้ง่าย
ค.ศ. 1879 ประดิษฐ์หลอดไฟ ไส้คาร์บอนสำเร็จ เริ่มออกแบบสวิตช์ เปิด-ปิด หลอดไฟ ให้ติดตั้งในบ้านเรือนง่ายขึ้น จุดเริ่มต้นของ หลอดไฟบนโลก
ค.ศ. 1880 เปลี่ยนไส้หลอดไฟ จากคาร์บอนเป็น ไม้ไผ่ญี่ปุ่น เพราะหลอดไม้ไผ่ญี่ปุ่น ส่องสว่างได้นานถึง 900 ชั่วโมง ส่วนหลอดคาร์บอน ส่องสว่างได้นาน 40 ชั่วโมง
ค.ศ. 1882 สร้างโรงจ่ายกระแสไฟฟ้า ที่นิวยอร์ก ประกาศเทคโนโลยีหลอดไฟ ให้เป็นที่รู้จัก
ค.ศ. 1883 ประดิษฐ์หลอดไฟรุ่นใหม่ ที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไปได้ ทำให้หลอดไฟ แพร่กระจายไป ตามจุดต่าง ๆ ของโลกเร็วขึ้น
ค.ศ. 1884 ภรรยาของเขาเสียชีวิต ด้วยโรคไทฟอยด์
ค.ศ. 1886 ทอมัสแต่งงานใหม่ กับมินา มิลเลอร์
ค.ศ. 1891 ประดิษฐ์เครื่องถ่ายภาพ ตัดต่อสำเร็จ บันทึกภาพเคลื่อนไหว นำไปสู่การสร้างภาพยนตร์
ค.ศ. 1893 สร้างโรงถ่ายภาพยนตร์ แห่งแรกของโลก
ค.ศ. 1894 ภาพเคลื่อนไหว เรื่องแรกของโลก ที่มีชื่อว่า “บันทึกการจาม” แต่ยังไม่มีเสียง
ค.ศ. 1896 พ่อของเขาเสียชีวิต และเขารู้จักกับ เฮนรี ฟอร์ด ทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนซี้กัน
ค.ศ. 1898 เริ่มประดิษฐ์แบตเตอรี่ และประดิษฐ์สำเร็จใน ค.ศ. 1909 ใช้เวลานานถึง 11 ปี
ค.ศ. 1912 เกิดการใช้เครื่องถ่ายภาพตัดต่อ และเครื่องบันทึกเสียงพร้อมกัน ทำให้เกิดเป็น “ภาพยนตร์” ที่มีทั้งภาพและเสียง
วาทะเด็ดทอมัส เอดิสัน
“Genius is one percent inspiration and ninety-nine percent perspiration.” อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ และอีก 99 เปอร์เซ็นต์คือความอุตสาหะ
“I have not failed. I’ve just found 10,000 ways that won’t work.” ผมไม่ได้ล้มเหลวนะ ผมเพิ่งจะพบ 10,000 วิธีที่มันใช้ไม่ได้